วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

Pompier




Un pompier est une personne entraînée à combattre le feu, les inondations, et offrir une gamme de secours de diverses natures.
L'expression «
soldat du feu » consacre le rôle de lutte contre les incendies ; on la trouve dans les mots fireman (anglais), firefighter (anglais des États-Unis) et Feuerwehr (allemand). La part de la lutte contre l'incendie dans les activités des pompiers modernes est en régression, en raison de l'amélioration des normes de construction, des règlements de sécurité, de la sensibilisation des populations et de la diversification des missions, pour ne plus représenter en France qu'environ 10% des interventions. Les sapeurs-pompiers sont l'un des pivots de la sécurité civile.

Boomerang


A boomerang is a simple wooden implement used for various purposes. It is primarily associated with Australian Aborigines, but other forms are found amongst peoples of North East Africa, Sardinia, Arizona and southern California Native Americans and in India. Besides the ancient boomerangs of Egypt and Sardinia, another old one found so far was discovered in a cave in the Carpathian Mountains in Poland and is believed to be about 20,000 years old. Boomerangs come in many shapes and sizes depending on their geographic/tribal origins and intended function. The most recognizable type is the returning boomerang, a kind of throwing stick that, when thrown correctly, travels in a curved path and returns to its point of origin. Other types of boomerang are of the non-returning sort, and indeed, some are not thrown at all but are used in hand-to-hand combat by Aboriginal people. Boomerangs can be variously used as hunting weapons, percussive musical instruments, battle clubs, fire-starters, decoys for hunting waterfowl, and as recreational play toys. The smallest boomerang may be less than 10 cm from tip-to-tip, and the largest over 2 meters in length. Tribal boomerangs may be inscribed and/or painted with designs meaningful to its maker. Most boomerangs seen today are of the tourist or competition sort, and are almost invariably of the returning type.

วันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2551


อะมีบา (อังกฤษ amoeba, ameba) เป็นโปรโตซัวสกุลหนึ่ง สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยส่วนของลำตัวที่ยื่นออกมาชั่วคราว เรียกว่าเท้าเทียม (pseudopods) และถือว่าเป็นตัวแทนของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่รู้จักกันดี คำว่า อะมีบา นั้นมีการใช้หลากหลาย หมายถึงสัตว์เช่นนี้ และสัตว์จำพวกอื่นที่มีความใกล้ชิดในทางชีววิทยา ปัจจุบันจัดกลุ่มเป็น อะบีโบซัว (Amoebozoa) หรือหมายถึงโปรโตซัวทั้งหมด ที่เคลื่อนไหวได้ด้วยเท้าเทียม หรืออาจเรียกว่า อะมีบอยด์ (amoeboids)
อะมีบาเองนั้นพบได้ใน
น้ำจืด โดยปกติอยู่ในพืชผักที่เน่าเปื่อย จมอยู่ในลำน้ำ แต่ไม่ได้พบมากเป็นพิเศษในธรรมชาติ

Kangaroo


A kangaroo is a marsupial from the family Macropodidae (macropods, meaning 'large foot'). In common use the term is used to describe the largest species from this family, the Red Kangaroo, the Antilopine Kangaroo, and the Eastern and Western Grey Kangaroo of the Macropus genus. The family also includes many smaller species which include the wallabies, tree-kangaroos, wallaroos, pademelons and the Quokka, some 63 living species in all. Kangaroos are endemic to the continent of Australia, while the smaller macropods are found in Australia and New Guinea.
In general, larger kangaroos have adapted much better to changes wrought to the Australian landscape by humans and though many of their smaller cousins are endangered, they are plentiful. They are not farmed to any extent, but wild kangaroos are shot
for meat. Although there is some controversy, harvesting kangaroos for meat has many environmental and health benefits over other meats.
The kangaroo is an Australian icon: it is featured on the
Australian coat of arms, on some of its currency, and is used by many Australian organisations, including Qantas.

วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

ทายนิสัยจากท่านั่ง


ผู้หญิงที่นั่ง แล้วเอาเท้าข้างหนึ่งยกขึ้นไว้บนเก้าอี้
ว่ากันว่า: มีฐานะสูงศักดิ์มาก มีชีวิตจิตใจมั่นคง อยู่กับสติปัญญายิ่งกว่าอารมณ์ จิตใจแน่วแน่มั่นคงและไม่ชอบคบหาสมาคมกับเพื่อนฝูง
ผู้หญิงที่นั่งไขว่ห้าง
ว่ากันว่า: มีความสำรวมตัวเองมาก และจะระวังเพศตรงข้ามที่ไม่ซื่อสัตย์
ผู้หญิงที่นั่ง ห้อยเท้าทั้งคู่ลงมาตรงๆ
ว่ากันว่า: มีความซื่อสัตย์และมีอำนาจอยู่ในตัวเอง รักความยุติธรรม สามารถดูแลบ้านเรือนได้
ผู้หญิงที่นั่ง โดยใช้เท้าทั้งสองข้างไขว้กัน
ว่ากันว่า: ผู้หญิงแบบนี้มีความพอใจที่จะมีหน้าตาดีเด่น ไม่ชอบทำงานบ้าน แต่มีน้ำใจกว้างขวาง ชอบความสุภาพเรียบร้อย เมื่อเข้าสังคมจะเป็นคนที่มีมารยาทมาก
ผู้หญิงที่นั่ง เอาเท้าทั้งสองข้างไขว้ทับกัน หรือที่เรียกว่านั่งขัดสมาธิ
ว่ากันว่า: จะเป็นคนที่ระมัดระวังตัวเองเกินไป จนกลายเป็นความหวาดระแวงในใจ จะมีแต่ความรุ่มร้อน ไม่มีความสบายใจ เธอจะเสาะแสวงหาสิ่งที่ดีงาม แสดงให้เห็นว่า เธอมีความทะเยอทะยาน ดิ้นรน และใฝ่สูง เป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
ผู้หญิงที่นั่ง แล้วมักยกเท้าข้างหนึ่งวางพาดไว้บนหัวเข่า
ว่ากันว่า: เป็นคนมีเสน่ห์ พูดเก่ง และเป็นคนที่รู้จักชีวิตมาก

วันเสาร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2551

สงกรานต์



สงกรานต์ เป็นประเพณีปีใหม่ของประเทศไทย ลาว กัมพูชา พม่า ชนกลุ่มน้อยชาวไตแถบเวียดนามและมณฑลยูนนานของจีน ศรีลังกาและทางตะวันออกของประเทศอินเดีย สงกรานต์เป็นคำสันสกฤต หมายถึงการเคลื่อนย้าย ซึ่งเป็นการอุปมาถึงการเคลื่อนย้ายของการประทับในจักรราศี หรือคือการเคลื่อนขึ้นปีใหม่ในความเชื่อของไทยและบางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชาวต่างประเทศเรียกว่า "สงครามน้ำ"
ตามหลักแล้วเทศกาลสงกรานต์ถูกกำหนดตามการคำนวณโดยหลักเกณฑ์ในคัมภีร์สุริยยาตร์ โดยวันแรกของเทศกาลซึ่งเป็นวันที่พระอาทิตย์ยกเข้าสู่ราศีเมษ (ย้ายจากราศีมีนไปราศีเมษ) เรียกว่า "วันมหาสงกรานต์" วันถัดมาเรียกว่า "วันเนา" และวันสุดท้ายซึ่งเป็นวันเปลี่ยนจุลศักราชและเริ่มใช้กาลโยคประจำปีใหม่ เรียกว่า "วันเถลิงศก" จากหลักการข้างต้นนี้ ทำให้ปัจจุบันเทศกาลสงกรานต์มักตรงกับวันที่ 14-16 เมษายน (ยกเว้นบางปี เช่น พ.ศ. 2551 และ พ.ศ. 2555 ที่สงกรานต์กลับมาตรงกับวันที่ 13-15 เมษายน) อย่างไรก็ตาม ปฏิทินไทยในขณะนี้กำหนดให้เทศกาลสงกรานต์ตรงกับวันที่ 13-15 เมษายน ของทุกปี และเป็นวันหยุดราชการ
สงกรานต์ เป็นประเพณีเก่าแก่ของไทยซึ่งสืบทอดมาแต่โบราณคู่มากับประเพณีตรุษ จึงมีการเรียกรวมกันว่า ประเพณีตรุษสงกรานต์ หมายถึงประเพณีส่งท้ายปีเก่า และต้อนรับปีใหม่ คำว่าตรุษเป็นภาษาทมิฬ แปลว่าการสิ้นปี
พิธีสงกรานต์ เป็นพิธีกรรมที่เกิดขึ้นในสมาชิกในครอบครัว หรือชุมชนบ้านใกล้เรือนเคียง แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนไปสู่สังคมในวงกว้าง และมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนทัศนคติ และความเชื่อไป ในความเชื่อดั้งเดิมใช้สัญลักษณ์เป็นองค์ประกอบหลักในพิธี ได้แก่ การใช้น้ำเป็นตัวแทน แก้กันกับความหมายของฤดูร้อน ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์เคลื่อนเข้าสู่ราศีเมษ ใช้น้ำรดให้แก่กันเพื่อความชุ่มชื่น มีการขอพรจากผู้ใหญ่ การรำลึกและกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับ ในชีวิตสมัยใหม่ของสังคมไทยเกิดประเพณีกลับบ้านในเทศกาลสงกรานต์ นับวันสงกรานต์เป็นวันครอบครัว ในพิธีเดิมมีการสรงน้ำพระที่นำสิริมงคล เพื่อให้เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่มีความสุข ปัจจุบันมีพัฒนาการและมีแนวโน้มว่าได้มีการเสริมจนคลาดเคลื่อนบิดเบือนไป เกิดการประชาสัมพันธ์ในเชิงการท่องเที่ยวว่าเป็น ‘Water Festival’ เป็นภาพของการใช้น้ำเพื่อแสดงความหมายเพียงประเพณีการเล่นน้ำ
การที่สังคมเปลี่ยนไป มีการเคลื่อนย้ายที่อยู่เข้าสู่เมืองใหญ่ และถือวันสงกรานต์เป็นวัน "กลับบ้าน" ทำให้การจราจรคับคั่งในช่วงวันก่อนสงกรานต์ วันแรกของเทศกาล และวันสุดท้ายของเทศกาล เกิดอุบัติเหตุทางถนนสูง นับเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงหลายด้านของสังคม นอกจากนี้ เทศกาลสงกรานต์ยังถูกใช้ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งต่อคนไทย และต่อนักท่องเที่ยวต่างประเทศ

วันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2551

เครื่องดื่มทายนิสัย


ชอบดื่มน้ำหวาน คนที่ชอบดื่มน้ำหวานธรรมดาๆ ง่ายๆ มักเป็นคนที่รักสงบ ชอบทำงานที่มีความมั่นคง ปลอดภัย มีรายได้ประจำสม่ำเสมอ และมีหลักประกันในชีวิตที่แน่นอน หลีกเลี่ยงที่จะพบเจอกับความสับสนวุ่นวาย มีความมานะพยายามสูง ค่อนข้างจะยึดมั่นในสิ่งที่ตนคิดเอามาก ๆ ไม่ใช่คนที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ได้โดยง่าย ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่มองโลกในแง่ดี มีความสุขอยู่เสมอและมีความหวังในชีวิตอยู่ตลอดเวลา

ชอบดื่มน้ำอัดลม สำหรับคนที่ชอบดื่มน้ำอัดลมมากที่สุดนั้น มักเป็นคนที่ชอบทำอะไรตามใจตัวเองเอามาก ๆ ไม่มีใครสามารถบังคับให้อยู่ในกฎเกณฑ์ได้ ทั้งยังเป็นคนที่ไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่นเท่าที่ควร แต่ในขณะเดียวกันก็จะเป็นคนที่ให้ความสนใจในเรื่องที่ลึกซึ้งเช่นธรรมะหรือศาสนา และเป็นคนที่ชอบศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ โดยเฉพาะในเรื่องแปลกใหม่ที่ไม่เคยรู้มาก่อน นอกจากนี้ยังเป็นคนที่รักการเดินทางมาก ชอบการผจญภัยตลอดเวลา และไม่เคยย่อท้อต่อความผิดหวัง

ชอบดื่มน้ำผลไม้ คนที่ชอบดื่มน้ำผลไม้มากที่สุดจนเป็นเครื่องดื่มแสนโปรดปรานนั้น มักเป็นคนที่มีความขยันขันแข็งมาก ทำงานได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเลยทีเดียว และจะมีความสุขมากหากได้ทำงาน นอกจากนี้ยังเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือ รับใช้ บริการมาก จนเหมือนชอบเข้าไปวุ่นวายในชีวิตคนอื่น แต่ว่าก็จะทำด้วยความบริสุทธิ์ใจเสมอและยังมีลักษณะของคนที่เจ้าระเบียบ ออกจะจู้จี้จุกจิกอยู่สักหน่อย ให้ความสำคัญต่อเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จนลืมสิ่งสำคัญไปอยู่บ่อยๆ

ชอบดื่มกาแฟ ผู้ที่มีเครื่องดื่มที่ชอบที่สุดคือกาแฟนั้น มักเป็นคนที่มีความคาดหวังในชีวิตสูงมาก เมื่อตั้งความหวังอะไรไว้ ก็จะพยายามไปถึงสิ่งที่หวังนั้นให้ได้อย่างใจเย็นและรู้จักการรอคอย ทั้งยังเป็นคนที่ให้ความสำคัญต่อเรื่องความมั่นคงทางเศรษฐกิจมาก นอกจากนี้ยังเป็นคนที่ยึดถือในเหตุผลและหลักการ ชอบความเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ไม่ใช่คนที่ซับซ้อนอะไรเลย หากเป็นคนจริงจังและตรงไปตรงมามาก ชอบคิดอะไรง่าย ๆ แต่ไม่ค่อยมีรายละเอียดในชีวิตนัก

ชอบดื่มน้ำชา คนที่ชอบดื่มเครื่องดื่มจำพวกชาต่างๆ นั้นมักเป็นคนที่มีความละเมียดละไมในการใช้ชีวิตมาก มีความนุ่มนวลอ่อนโยนและชอบเอาอกเอาใจคนรอบข้าง คนที่อยู่ใกล้ชิดมักรู้สึกถึงความสงบ อบอุ่น และผ่อนคลาย ทั้งยังสามารถเข้าได้กับคนทุกกลุ่ม และมีเสน่ห์ต่อทุกคน นอกจากนี้ยังเป็นคนที่ปรับตัวได้เก่ง ช่างประนีประนอม และไม่ชอบความขัดแย้งใด ๆ ทั้งสิ้น แถมยังเป็นคนที่มักลังเลในการตัดสินใจเสมอ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่มีความซื่อสัตย์และยุติธรรม

ชอบดื่มไวน์ สำหรับคนที่ชอบดื่มไวน์นั้น มักเป็นคนที่มีรายละเอียดและกฎเกณฑ์ในชีวิตเสมอ ทั้งยังเป็นคนที่ยึดมั่นต่อขนบธรรมเนียมประเพณีมาก ๆ อีกด้วย แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่ยึดมั่นในความถูกต้องและกฎเกณฑ์ที่ดีงามของสังคม เป็นคนที่รู้จักกาละเทศะ และสามารถเข้าสังคมได้ดี นอกจากนี้ยังเป็นคนที่มีความเชื่อในเรื่องพิธีกรรมต่างๆ และค่อนข้างจะเป็นพวกอนุรักษ์นิยม จึงมักจะมีปัญหากับคนที่ชอบทำตัวอิสระเกินขอบเขตอยู่เสมอ

ชอบดื่มเบียร์ คนที่ชอบดื่มเบียร์มากที่สุดในบรรดาเครื่องดื่มทั้งหลายนั้น มักเป็นคนที่มีชีวิตชีวา และมีจิตใจที่ฮึกเหิมกล้าหาญมาก รักการผจญภัยเป็นที่สุด ทั้งยังเป็นคนใจร้อนใจเร็วไปเสียทุกเรื่อง โดยไม่สนใจสถานการณ์ใดๆ ทั้งสิ้น และยังไม่ใช่คนรอบคอบที่รู้จักคิดอะไรโดยมีการไตร่ตรองนัก มักเปลี่ยนใจง่าย แต่ขณะเดียวกันก็มีความเป็นตัวของตัวเองมาก ให้ทนทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบจะทนไม่ได้เลย มีความเป็นอิสระสูงและชอบการแสดงออก

ดื่มได้ทุกอย่าง ส่วนคนที่ไม่ได้ชอบเครื่องดื่มชนิดใดมากเป็นพิเศษ แต่สามารถดื่มได้ทุดชนิดตามแต่จะมีมาให้ดื่ม มักเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยน และมีความรู้สึกที่อ่อนไหว เปราะบาง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย รับรู้และเข้าอกเข้าใจในความทุกข์ความเศร้าของคนอื่นได้อย่างลึกซึ้ง แต่จะเป็นคนที่ค่อนข้างเก็บตัว ไม่ชอบการเผชิญหน้า และมักหลีกเลี่ยงสิ่งที่นำมาซึ่งความโศกเศร้าทุกอย่าง นอกจากนี้ยังเป็นคนที่หลงไหลอะไรได้ง่าย มักจะสับสนกับความต้องการของตัวเองอยู่เสมอ

วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

ทายนิสัยจากช็อคโกแลต

ช็อคโกแลตนอกจากจะเป็นของหวานแสนอร่อยที่ให้พลังงานต่อร่างกายแล้วยังถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก และมิตรภาพ และที่พิเศษไปกว่านั้น ช็อคโกแลตยังสามารถบ่งบอกถึงนิสัยของคุณที่ซ่อนอยู่ภายในตัวอีกด้วย เรามีคำทายจากการเลือกกินช็อคโกแลตของคุณมาฝากกันค่ะ
ช็อคโกแลตมิ้นต์
เป็นคนที่มองไปข้างหน้าอยู่เสมอ ไม่ชอบเก็บเอาอดีตมาใส่ใจ ไม่มีกฏระเบียบอันใดที่จะหยุดคุณได้ยกเว้นคุณจะเป็นคนสร้างกฏนั้นเสียเอง เป็นคนชัดเจนและเปิดเผย ตรงไปตรงมา และเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ และพยายามมุ่งมั่นที่จะทำทุกอย่างให้ดีขึ้น ข้อเสีย บางครั้งก็มุ่งมั่นมากเกินไป ควรจะปล่อยวางบ้าง
ช็อคโกแลตนม
เป็นคนโรแมนติก และแสนจะอบอุ่นคนหนึ่งเชียวล่ะ ตัดสินใจรวดเร็ว คุยสนุกและยิ่งไปกว่านั้นคุณชอบที่จะช่วยเหลือคนอื่นอยู่เสมอในยามที่พวกเขาต้องการ ข้อเสีย ด้วยความที่คุณมักจะเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจของคนอื่นๆ อยู่เสมอ อาจจะทำให้คนคิดว่าคุณชอบทำตัวเด่นเกินไป และในบางเวลาคุณควรหันมาใส่ใจตัวเองให้มาก ค่อยช่วยเหลือคนอื่น
ช็อคโกแลตสอดไส้
เป็นสาว/หนุ่มสังคมตัวยง มีงานปาร์ตี้ที่ไหนคุณก็ไม่เคยพลาด คุณเป็นคนชอบให้มีคนอยู่รอบข้างเสมอ และที่สำคัญคุณเป็นคนใจบุญ ข้อเสีย คุณเบื่อง่าย และมักจะเห็นดีเห็นงามกับความคิดของคนอื่นแบบง่ายๆไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม
ช็อคโกแลตเวเฟอร์
เป็นคนรักสนุก มีอารมณ์ขัน ช่างพูดช่างคุย ทำให้คนรอบข้างคุณมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ คุณมักจะชอบเล่าเรื่องตลก หรือมีกลเม็ดเด็ดพรายคอยทำให้คนอื่นหัวเราะอยู่เสมอ และใครที่ได้เป็นเพื่อนจะเป็นคนที่โชคดีมากเพราะคุณคือเพื่อนแท้แห่งชีวิตทีเดียว
ช็อคโกแลตขม
เป็นคนไม่ชอบการรอคอยอะไรที่นานๆ และมักจะตกหลุมรักง่าย เป็นคนใจร้อน แต่ในขณะเดียวกันคุณก็เป็นคนช่างคิด ข้อเสีย เป็นคนที่ขาดความอดทน คุณเหมือนเป็นคนที่ยุ่งอยู่ตลอดเวลา แต่ตัวเองกลับไม่ได้อะไรเลย

วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

Rose


History

The rose has always been valued for its beauty and has a long history of symbolism. The ancient Greeks and Romans identified the rose with their goddesses of love referred to as Aphrodite and Venus. In Rome a wild rose would be placed on the door of a room where secret or confidential matters were discussed. The phrase sub rosa, or "under the rose", means to keep a secret — derived from this ancient Roman practice.
Early
Christians identified the five petals of the rose with the five wounds of Christ. Despite this interpretation, their leaders were hesitant to adopt it because of its association with Roman excesses and pagan ritual. The red rose was eventually adopted as a symbol of the blood of the Christian martyrs. Roses also later came to be associated with the Virgin Mary.
Rose culture came into its own in
Europe in the 1800s with the introduction of perpetual blooming roses from China. There are currently thousands of varieties of roses developed for bloom shape, size, fragrance and even for lack of prickles.

Riz




Histoire

L'Homme a commencé à cultiver le riz il y a près de 10 000 ans lors de la révolution néolithique. Il se développe d'abord en Chine puis dans le reste du monde. Oryza rufipogon, dont est dérivé le riz cultivé, existe depuis moins de 680 000 ans.
Le riz était connu des anciens
Grecs depuis les expéditions d'Alexandre le Grand en Perse.
Le riz est mentionné dès
1393 en France, dans le Mesnagier de Paris, mais c'est encore un produit d'importation. Ce sont les musulmans qui l'introduisent en Espagne. En Italie, il apparaît en 1468. En France, des tentatives de cultures sont réalisées au siècle, mais ce n'est que dans la seconde moitié du siècle que cette culture se développe, parallèlement à l'aménagement du delta du Rhône.

วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

Valentine's Day


Valentine's Day is a holiday celebrated on February 14. It is the traditional day on which lovers express their love for each other; sending Valentine's cards, or offering candy. It is very common to present flowers on Valentine's Day. The holiday is named after two among the numerous Early Christian martyrs named Valentine. The day became associated with romantic love in the circle of Geoffrey Chaucer in High Middle Ages, when the tradition of courtly love flourished.
The day is most closely associated with the mutual exchange of love notes in the form of "valentines." Modern Valentine symbols include the heart-shaped outline and the figure of the winged
Cupid. Since the 19th century, handwritten notes have largely given way to mass-produced greeting cards. The mid-nineteenth century Valentine's Day trade was a harbinger of further commercialized holidays in the United States to follow. The U.S. Greeting Card Association estimates that approximately one billion valentines are sent each year worldwide, making the day the second largest card-sending holiday of the year behind Christmas. The association estimates that women purchase approximately 85 percent of all valentines.

อ่านหนังสือพิมพ์ทายนิสัย


อ่านข่าวบันเทิงก่อน
เป็นคนที่มีความสนุกสนานรื่นเริง ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับความบันเทิงเริงรมย์ ชอบไปงานเลี้ยงสังสรรค์ ชอบดูภาพยนตร์ สนใจเรื่องของชาวบ้าน
อ่านหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับ
เป็นคนกระตือรือร้นและอยากได้ข่าวสารใหม่ๆ ตลอดเวลา ไม่ชอบที่จะเป็นคนตกข่าว เป็นคนรอบคอบ ละเอียดถี่ถ้วน เมื่อทำอะไรแล้วก็จะตั้งใจทำให้ดีที่สุด
อ่านข่าวในประเทศก่อน
เป็นคนที่เคารพกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ ของสังคม ไม่ชอบเอาเปรียบผู้อื่นเป็นนักต่อสู้ตัวฉกาจ ปฎิบัติตัวต่อคู่ครองด้วยความรักและซื่อสัตย์ มีความจริงใจต่อเพื่อนฝูง ช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความเต็มใจ
อ่านข่าวผ่านๆ และเลือกอ่านข่าวเพียงบางเรื่อง
เป็นคนไม่ค่อยใส่ใจต่อเหตุการณ์ของโลกนัก มักจะใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่ค่อยยุ่งกับชาวบ้าน มองโลกในแง่ดี รักเพื่อนและมีน้ำใจ
อ่านข่าวภูมิภาคก่อน
หากเลือกอ่านข่าวที่เกี่ยวกับท้องถิ่นของตนเองก่อน จะเป็นคนที่รักพวกพ้องมาก ใครจะมาแตะต้องไม่ได้ ต้องลุยให้แหลกกันไปข้างหนึ่ง เป็นคนชอบความสงบ ไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นนอกจากพวกของตน
อ่านข่าวเกี่ยวกับการบ้านการเรือนก่อน
เป็นคนที่กระตือรือร้นและมีระเบียบวินัย มีการวางแผนงานเฉพาะหน้าเพื่อตนเองและครอบครัว หากรักปากอะไรกับใครแล้วต้องทำได้
อ่านข่าวท่องเที่ยวก่อน
เป็นคนอยู่ไม่ติดที่ ชอบเดินทางอยู่เสมอ ถ้าหากอยู่ที่ไหนนานเกินไปจะเกิดอาการเบื่อ ต้องรีบหาเรื่องชีพจรลงเท้าทันทีรักความอิสระเสรี เป็นตัวของตัวเองสูง
อ่านข่าวกีฬาก่อน
เป็นคนชอบทำงานเป็นทีม ไม่หวั่นต่อการเสี่ยงและท้าทาย ชอบการทำงานหนักและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคต่างๆ แต่จะคิดว่าเป็นบทเรียนที่มีค่าสำหรับตนเอง นอกจากนั้นแล้วยังเป็นคนที่ชอบการต่อสู้แข่งขันมีระเบียบวินัยสูง มักจะประพฤติตัวอยู่ในกรอบและพร้อมจะปรับปรุงตัวเอง
อ่านข่าวเศรษฐกิจก่อน
เป็นคนชอบความท้าทาย ชอบเรื่องลับสมอง และมีความสุขที่ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ออกมา เป็นคนที่มีความที่มีความทะเยอทะยานสูง ค่อนข้างจริงจังกับชีวิต จะทำงานที่เห็นว่าเหมาะสมกับตนเองและทุ่มเทกับการทำงานอย่างเต็มที่
อ่านเรื่องเกี่ยวกับอาหารก่อน
เป็นคนที่มีรสนิยมดี ชอบความสวยงาม ชอบให้ตนเองแวดล้อมไปด้วยสิ่งที่เจริญตา และพยายามทำตนให้เป็นที่สนใจต่อเพื่อนฝูงและคนอื่นๆ ไม่ชอบเป็นคนตกสมัยมักทำตัวเองให้อีพเดทอยู่เสมอ ทั้งในเรื่องการแต่งตัวและรสนิยมในการใช้ชีวิต

วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

อ่านหนังสือทายนิสัย

วันนี้มีคำทำนายมาฝากเพื่อนๆกันนะคะ
สมมุติว่าเราหยิบหนังสือมาหนึ่งเล่ม หากเราเปิดอ่านแค่คร่าว ๆ โดยไม่ได้ใส่ใจที่จะอ่านรายละเอียดมากนัก แสดงว่าเป็นคนใจร้อน วู่วาม เวลาจะทำงานอะไรก็ จะไม่ค่อยละเอียดถี่ถ้วนนัก จะให้ความสนใจแต่เรื่องหลัก ๆ ไม่มีการวางแผนล่วงหน้า นึกอยากจะทำอะไรก็จะลงมือเลยแบบตามใจตัวเองโดยไม่คิดให้รอบคอบเสียก่อน จึงมักจะมีเรื่องให้ผิดหวังอยู่เสมอ
เปิดอ่านแต่เรื่องที่ตนเองสนใจ แสดงว่าเป็นคนที่มีความเป็นเด็กอยู่ในตัวสูง มักเอาแต่ใจตัวเอง นึกคิดอะไรก็ทำไปอย่างนั้น ไม่ค่อยนึกถึงจิตใจผู้อื่นเท่าใดนัก แต่เป็นคนจิตใจดี ใจกว้าง ชอบ ช่วยเหลือผู้อื่น แต่ด้วยความที่เป็นคนไม่ค่อยมีมนุษยสัมพันธ์เลยทำให้ไม่ค่อยมีคนกล้าเข้าใกล้หรือกล้าเข้ามาทำความรู้จักด้วย
ชอบอ่านทุกหน้าและทุกเรื่อง จะเป็นคนใจกว้าง ยอมรับความคิดหรือสิ่งใหม่ ๆ ได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นความคิดของใครก็ตาม เป็นคนที่ให้โอกาสคนอื่นสูง ความสนใจใคร่รู้ในสิ่งต่าง ๆ และทันเหตุการณ์และหากสนใจในเรื่องใด ก็มักจะทุ่มเทให้กับเรื่องนั้นเพื่อให้รู้จริง มีความคิดกว้างไกลมากและมักจะได้รับการยอมรับจากคนรอบข้าง
ชอบออกเสียงเวลาอ่านหนังสือ แสดงให้เห็นถึงการมีใจคอเปิดเผยจริงใจและซื่อสัตย์ต่อทุกคนที่คบด้วยและเป็น คนไว้ใจได้ไม่ค่อยมีพิษมีภัยกับใคร เป็น คนรักสงบ มีชีวิตเรียบง่าย สมถะ รักธรรมชาติ ถึงแม้จะไม่ใช่คนมีภูมิความรู้อะไรมากนักแต่ก็มีความน่านับถืออยู่ในตัว มีโลกส่วนตัวและมีโลกในอุดมคติของตัวเอง
ชอบขีดเส้นข้อความสำคัญเวลาอ่านหนังสือ อุปนิสัยเป็นคนช่างจดจำและค่อนข้างยึดมั่นในตัวเอง สิ่งไหนที่เป็นของตนเองก็ไม่อยากให้ใครมาแย่งไป แต่ก็เป็นคนทำงานเก่งและทำได้ดี เพราะเวลาทำงานมักจะทำอย่างจริงจัง และไม่ชอบเสียเวลากับเรื่องไร้สาระ
ชอบพับขอบหนังสือ เวลาอ่านหนังสือค้างไว้มักจะใช้วิธีพับขอบแทนการใช้ที่คั่นหนังสือ แสดงว่าเป็นคนไม่ค่อยเรียบร้อยนัก แต่เมื่อได้ลงมือทำอะไรก็มักจะทำอย่างจริงจัง หมกมุ่นจนทำสำเร็จ ไม่ค่อยใส่ใจคนรอบข้างนัก ดูเหมือนเป็นคนเห็นแก่ตัวแต่ที่จริงเค้าไม่เก่งเรื่องโฆษณาประชาสัมพันธ์ตัวเองซะมากกว่า ยิ่งเวลามีคนมาขอความช่วยเหลือเค้าก็จะพร้อมจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2551


Le pain est un aliment de base dans de nombreuses sociétés humaines. Il est fabriqué à partir de farine, de levure ou levain, de sel et d'eau. La pâte du pain est soumise à un gonflement (pâte levée) dû à la fermentation, c'est ce qui caractérise le pain par rapport à la galette. La farine provient principalement de céréales panifiables : blé et seigle. On peut y adjoindre, en quantité modérée des farines d'autres provenances : autres céréales (orge, maïs), châtaigne, noix… En effet, les céréales panifiables se caractérisent par la présence de gluten, ensembles de protéines aux propriétés élastiques qui permettent d'emprisonner les bulles de gaz carbonique dégagées par la fermentation . C'est ce qui permet la levée de la pâte.

ทวีปเอเชีย เป็นส่วนหนึ่งของมหาทวีปแอฟริกา-ยูเรเชีย มีเขตแดนที่คลุมเครือโดยเฉพาะเขตต่อระหว่างเอเชียกับยุโรป ทวีปเอเชียกับแอฟริกาบรรจบกันที่ใดที่หนึ่งใกล้กับคลองสุเอซ (Suez Canal) ในอียิปต์ แนวเขตแดนระหว่างเอเชียกับยุโรปผ่านช่องแคบดาร์ดะเนลส์ (Dardanelles) ทะเลมาร์มารา (Sea of Marmara) ช่องแคบบอสโพรัส (Bosporus) ทะเลดำ (Black Sea) แนวสันเขาบริเวณเทือกเขาคอเคซัส (Caucasus) (บางคนว่าผ่านทะลุแอ่งคูมา-มานิช - Kuma-Manych Depression) ทะเลแคสเปียน (Caspian Sea) แม่น้ำอูราล (Ural River) (บางคนว่าผ่านแม่น้ำเอมบา - Emba River) และเทือกเขาอูรัล (Ural Mountains) ถึงหมู่เกาะโนวายาเซมเลีย (Novaya Zemlya) เอเชียมีประชากรราว 60% ของประชากรโลก
พื้นที่ที่เป็นทวีปเอเชียยังรวมถึง
เกาะต่าง ๆ ในมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก ที่อยู่ไม่ไกลจากแผ่นดินใหญ่

Pain


Le pain est un aliment de base dans de nombreuses sociétés humaines. Il est fabriqué à partir de farine, de levure ou levain, de sel et d'eau. La pâte du pain est soumise à un gonflement (pâte levée) dû à la fermentation, c'est ce qui caractérise le pain par rapport à la galette. La farine provient principalement de céréales panifiables : blé et seigle. On peut y adjoindre, en quantité modérée des farines d'autres provenances : autres céréales (orge, maïs), châtaigne, noix… En effet, les céréales panifiables se caractérisent par la présence de gluten, ensembles de protéines aux propriétés élastiques qui permettent d'emprisonner les bulles de gaz carbonique dégagées par la fermentation . C'est ce qui permet la levée de la pâte.

วันพุธที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2551

ศิลป์ พีระศรี


ศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี (15 กันยายน พ.ศ. 2435-14 พฤษภาคม พ.ศ. 2505) เดิมชื่อ คอร์ราโด เฟโรชี - Corrado Feroci ชาวอิตาลีสัญชาติไทย เป็นปูชนียบุคคลคนหนึ่งของไทย โดยได้สร้างคุณูปการในทางศิลปะจนเป็นที่รู้จักกว้างขวาง ทั้งยังเป็นผู้ก่อตั้ง และครูสอนศิลปะในมหาวิทยาลัยศิลปากร จนเป็นที่รักใคร่และนับถือทั้งในหมู่ศิษย์และอาจารย์ และได้รับการยกย่องเป็นปูชนียบุคคลของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ มีผลงานที่โดดเด่นหลายอย่างในประเทศไทย ได้แก่ พระราชานุสาวรีย์ของสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่สวนลุมพินี และ อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี

ประวัติ
ศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี เกิดเมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2435 ในเขตซานโจวันนี (San Giovanni) เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี บิดาชื่อ นาย Artudo Feroci และมารดาชื่อนาง Santina Feroci เมื่ออายุ 23 ปี สามารถสอบผ่านเป็นศาสตราจารย์ จากราชวิทยาลัยศิลปแห่งนครฟลอเรนซ์ (The Royal Academy of Art of Florence)
ปี
พ.ศ. 2441 ได้เข้าศึกษาในระดับชั้นประถม หลักสูตร 5 ปี หลังจากจบหลักสูตร จึงเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนระดับมัธยมอีก 5 ปี หลังจากนั้นจึงเข้าศึกษาทางด้านศิลปะในโรงเรียนราชวิทยาลัยศิลปะ แห่งนครฟลอเรนซ์ จบหลักสูตรวิชาช่าง 7 ปีในขณะที่มีอายุ 23 ปีและได้รับประกาศนียบัตรช่างปั้นช่างเขียน ซึ่งต่อมาได้สอบคัดเลือกรับปริญญาบัตรเป็นศาสตราจารย์มีความรอบรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ศิลป์วิจารณ์ศิลป์และปรัชญาโดยเฉพาะมีความสามารถทางด้านศิลปะแขนงประติมากรรมและจิตรกรรม

ปี พ.ศ. 2466 ท่านได้ชนะการประกวดการออกแบบเหรียญเงินตราสยามที่จัดขึ้นในยุโรป ด้วยเหตุนี้จึงเดินสู่แผ่นดินสยามเพื่อเข้ามารับราชการเป็นช่างปั้นประจำกรมศิลปากร ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2466 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอาจารย์สอนวิชาช่างปั้นหล่อ แผนกศิลปากร สถานแห่งราชบัณฑิตสภา
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 พ.ศ. 2485 ประเทศอิตาลียอมพ่ายแพ้แก่ฝ่ายสัมพันธมิตร ชาวอิตาเลียน ในประเทศไทยตกเป็นเชลยของ ประเทศเยอรมนี กับ ญี่ปุ่น แต่รัฐบาลไทยขอควบคุมตัวท่านศาสตราจารย์ คอร์ราโด เฟโรจี ไว้เอง และ หลวงวิจิตรวาทการ ได้ดำเนินการทำเรื่องราวขอโอนสัญชาติจากอิตาเลียนมาเป็นสัญชาติไทย โดยเปลี่ยนชื่อของท่านให้มาเป็น "นายศิลป์ พีระศรี" เพื่อคุ้มครองท่านไว้ ไม่ต้องไปถูกเกณฑ์เป็นเชลยศึกให้สร้าง ทางรถไฟสายมรณะ และ สะพานข้ามแม่น้ำแคว เมืองกาญจนบุรี

ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ได้เริ่มวางหลักสูตรวิชาจิตรกรรมและประติมากรรมขึ้นในระยะเริ่มแรกชื่อ " โรงเรียนประณีตศิลปกรรม" ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น"โรงเรียนศิลปากรแผนกช่าง" และในปีพ.ศ. 2485กรมศิลปากรได้แยกจากกระทรวงศึกษาธิการไปขึ้นอยู่กับสำนักนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลในขณะนั้นโดย ฯพณฯจอมพลป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีตระหนักถึงความสำคัญของศิลปะว่าเป็นวัฒนธรรมที่สำคัญยิ่งสาขาหนึ่งของชาติ จึงได้มีคำสั่งให้ อธิบดีกรมศิลปากร ในขณะนั้นคือ พระยาอนุมานราชธน ดำเนินการปรับปรุงหลักสูตร และ ตรา พระราชบัญญัติ ยกฐานะโรงเรียนศิลปากรขึ้นเป็น มหาวิทยาลัยศิลปากร มีคณะจิตรกรรมประติมากรรม เป็นคณะวิชาเดียวของมหาวิทยาลัยศิลปากรเปิดสอนเพียง 2 สาขาวิชาคือ สาขา จิตรกรรม และสาขา ประติมากรรม โดยมี ศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรีเป็นผู้อำนวยการสอนและดำรงตำแหน่งคณบดี คนแรก

ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลไทยให้ออกแบบปั้นและควบคุมการหล่อพระราชนุสาวรีย์ และอนุสาวรีย์สำคัญของประเทศไทย โดยการปั้นต้นแบบสำหรับพระปฐมบรมราชานุสรณ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2472 - 2477 อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี พ.ศ. 2484 พระราชานุสาวรีย์ของสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว สวนลุมพินี และการออกแบบพระพุทธรูปปางลีลา ประธานพุทธมณฑล
ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ถึงแก่กรรมที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2505 รวมสิริอายุได้ 69 ปี 7เดือน 29 วัน

วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2551

Green tea


Green tea meaning it is made solely with the leaves of Camellia sinensis, that has undergone minimal oxidation during processing. Green tea originates from China and has become associated with many cultures in Asia from Japan to the Middle East. Recently, it has become more widespread in the West, where black tea is traditionally consumed. Many varieties of green tea have been created in countries where it is grown that can differ substantially due to variable growing conditions, processing and harvesting time. Over the last few decades green tea has begun to be subjected to many scientific and medical studies to determine the extent of its long purported health benefits, with some evidence suggesting regular green tea drinkers may have lower chances of heart disease and contracting certain types of cancer.
History

There is archaeological evidence that suggests that tea has been consumed for almost 5000 years, with China and India being two of the first countries to cultivate it. Green tea has been used as traditional medicine in areas such as India, China, Japan and Thailand to help everything from controlling bleeding and helping heal wounds to regulating body temperature, blood sugar and promoting digestion.
The Kissa Yojoki (Book of Tea), written by
Zen priest Eisai in 1191, describes how drinking green tea can have a positive effect on the five vital organs, especially the heart. The book discusses tea's medicinal qualities, which include easing the effects of alcohol, acting as a stimulant, curing blotchiness, quenching thirst, eliminating indigestion, curing beriberi disease, preventing fatigue, and improving urinary and brain function. Part One also explains the shapes of tea plants, tea flowers, and tea leaves, and covers how to grow tea plants and process tea leaves. In Part Two, the book discusses the specific dosage and method required for individual physical ailments.

คุณประโยชน์ของ น้ำชา


จากการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์พบว่า น้ำชามีสาร ประกอบอยู่หลายชนิด ซึ่งมีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น คาเฟอีน โพลีฟิีนอล แคททาซีนโปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามินซี วิตามินบี คอมเพล็ก วิตามินซี ฟูออไรด์ มังกานีส โปแตสเซียม และ สังกะสี เป็นต้น ซึ่งมีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย คือ
1. ทำให้ร่ายกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า
2. ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ช่วยขยายหลอดเลือด ป้องกันโรค หัวใจตีบตัน ช่วยรักษาอาการเจ็บหน้าอก

และกล้ามเนื้อหัวใจ ขาดเลือดหล่อเลี้ยง ช่วยรักษาโรคหลอดเลือดตีบตัน
3. แก้กระหาย ทำให้ชุ่มคอในช่วงอากาศร้อน และการดื่มจะช่วย กระจายความร้อนส่วนเกินในร่างกาย
4. ช่วยย่อยอาหาร ลดประจุในปัสสาวะ
5. ดับกลิ่นปากและป้องกันฟันผุ
6. ฆ่าเชื้อโรคบางชนิด เช่น ท้องเสียที่เกิดจากแบคทีเรีย
7. ช่วยสมานแผลในลำใส้ ลดอาการอักเสบ เช่นที่ผิวหนัง และ อาการของโรคปอดบวม
8. ช่วยละลายไขมัน ช่วยลดความร้อน ช่วยลดปริมาณน้ำตาลใน เลือด ลดคลอเลสเตอรอล และความดันในเส้นเลือด
9. ช่วยชะลอความชรา ทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น
10. ช่วยลดความเครียด และทำให้ความจำไม่เสื่อม
11. ช่วยระบายท้องและลดอาการท้องผูก
12. น้ำชาแก่ 1-2 ถ้วย จะช่วยแก้อาการเมาจากโรคพิษสุรา เรื้อรังและสารพิษในบุหรี่
13. ช่วยกำจัดพยาธิ
14. ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งในกระเพาะอาหารและลำไส้

15. ช่วยรักษาความสมดุลย์ของโลหิตให้มีสภาพความเป็นกรด เป็นด่างอยู่พอดี เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
16. ช่วยบำรุงหัวใจและคลายเครียด
17. ช่วยให้ผิวหนังขาวนุ่มเนียนและลดปานดำอันเกิดจากแดด
ใบชา
ชา กับ ชาวจีนมีความสัมพันธ์กันมาเป็นระยะเวลากว่า สี่พันปีแล้ว และปัจจุบันชาวจีนถือว่า ชาจีนนั้นเป็นเครื่องดื่มที่มี ความสำคัญต่อการดำรงชีวิตเป็นอย่างมาก
ชาไม่เพียงมีคุณสมบัติที่กล่าวมาแล้วข้างต้น แต่ทว่า หลังจากที่เรานำชามาชงเป็นน้ำดื่มได้แล้ว ใบชาที่ชงหลายครั้งยัง มีประโยชน์อีกมากมายเช่น
1. นำไปตากแห้งแล้วทำเป็นหมอนหนุน หมอนที่ทำด้วยใบชามี กลิ่นหอมและคลายเครียด
2. นำไปใช้เป็นปุ๋ยต้นพืช
3. น้ำชาอาบน้ำ ช่วยกำจัดกลิ่นตัว ป้องกันการเกิดโรคผิวหนัง
4. ใช้น้ำชาสระผมช่วยให้ผมเงางามและนิ่ม
5. ใช้น้ำชาลดความเครียดทางสายตา เหมือนน้ำยาล้างตาทั่วไป
6. ใช้น้ำชาแก้อักเสบ ล้างแผลสด ช่วยลดความเจ็บปวด และระงับ การเจริญเติบโตของเชื้อโรค
7. ใช้น้ำชาหรือใบชาล้างมือที่ติดกลิ่นเนื้อสัตว์หรือน้ำมัน
8. ใช้กำจัดกิล่นจากการใส่รองเท้า
9. ใช้น้ำชาล้างอุปกรณ์ใหม่ที่ทำจากไม้ ช่วยกำจัดกลิ่นสี
10. นำใบชาแช่ไว้ในตู้เย็น ช่วยกำจัดกลิ่นต่าง ๆ